ทํา hifu งดแอลกอฮอล์
ไฮฟู ( HIFU ) เป็นการยกกระชับหน้าที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด เป็นคลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูง ไม่มีอันตรายต่อผิว ไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้นนั่นเอง จึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเครื่องมือ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และส่วนที่สำคัญมากก็คือการเตรียมความพร้อม การดูแลรักษาตัวเองหลังจากการทำการทำ Hifu ควรมีวิธีปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้หากมีวิธีดูแลตนเองที่ไม่ถูกต้อง เช่น ทํา hifu งดแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงแสงแดด เป็นต้น
HIFU เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25 – 40 ปี ที่มีปัญหาดังนี้
- ผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวคอหย่อนคล้อย หนังตาและคิ้วตกหรือมีริ้วรอยมาก ต้องการยกกระชับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ยกกระชับผิวบริเวณคอ เหนียงใต้คาง ให้มีกรอบหน้าชัดเจน ต้องการยกแนวคิ้ว และหางตาให้เชิดขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่ได้รูปทรงเนื่องจากผิวไม่กระชับ ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ต้องการให้ผิวกระชับและมีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น
- ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณต่าง ๆ เช่น หน้าผาก หางตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ซึ่งริ้วรอยเหล่านี้อาจแก้ไขได้บางส่วนด้วยโบทูลินั่ม ท็อกซินหรือสารเติมเต็ม จำเป็นต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน
การดูแลตนเองก่อนทํา และหลังทำ hifu
การดูแลตนเองก่อนทํา hifu
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเริ่มทำการรักษา
- ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และทํา hifu งดแอลกอฮอล์ ก่อนการรักษา 3 – 7 วัน
- ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ โดยจะช่วยในการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้กับเซลล์ใหม่ทำงานได้ดีมากขึ้น
การดูแลตนเองหลังทํา hifu
- หลังจากการรักษาในคนไข้บางราย อาจมีอาการเมื่อย รู้สึกตึงผิว หรือเจ็บในบริเวณที่ทำการรักษา โดยสามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาได้
- หลีกเลี่ยงการนวด กดใบหน้า และไม่ควรถูใบหน้าแรง ๆ ในขณะล้างหน้า
- สามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าสามารถทาได้ตามปกติ
- ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดแรง ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันรังสี UVA และ UVB ทุกครั้ง เพื่อกลไกการฟื้นฟูของคอลลาเจนใต้ผิวจะได้ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
- ไม่ควรสูบบุหรี่ ทํา hifu งดแอลกอฮอล์ เพราะการกระทำเหล่านี้ถือว่าเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผลลัพธ์ของการรักษาจึงอาจไม่ชัดเจน
- รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีวิตามินสูง สามารถรับประทานคอลลาเจนเปปไทด์ และวิตามินซีเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มเติมได้
บทสรุป
ก่อนการรักษาควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำก่อนทุกครั้ง และควรได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองทั้งก่อนและหลัง เพื่อความปลอดภัยของตนเองมากที่สุด
|