วิธีซักผ้าม่าน |
|
ร้านผ้าม่าน ซีเอเคอร์เท่น ขอแนะนำวิธีการซักผ้าม่าน สำหรับท่านที่ต้องการซักผ้าม่านเอง ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก ประหยัดค่าใช้จ่าย การซักผ้าม่านสามารถซักได้ด้วยตนเอง โดยมีขั้นตอนที่แนะนำ สำหรับแม่บ้านที่ต้องการซักผ้าเอง |
|
สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านทั้งหลาย ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ใช้งานหรือไม่ จะอยู่ตรงจุดไหนของบ้าน จำเป็นที่ต้องการได้รับการดูแลรักษา การทำความสะอาด ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อยืดอายุการใช้งาน ให้ปราศจากสิ่งสกปรกจะนำมาซึ่งปัญหา โรคภูมิแพ้ต่างๆ
สิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยง คือ ละออง ฝุ่นผง ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศรอบตัวเรา รวมทั้งยักไย่ ที่มีอยู่คู่บ้านทุกๆหลัง แม้ว่าห้องนั้นจะปิดมิดชิดเพียงไร เชื่อว่าหนีไม่พ้นจากสิ่งเหล่านี้ได้
|
|
|
ผ้าม่าน จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาตามระยะเวลา อย่างถูกต้องตามวิธีที่ต่างจากสิ่งอื่น การอมฝุ่นของผ้าอาจ อาจมองไม่เห็นได้เจน รวมทั้งสิ่งสกปรกจากสาเหตุใดๆ ไม่ว่าจะเป็นความชื้นจากไอฝน หรือคราบน้ำจากเครื่องปรับอากาศ
สิ่งสกปรกเหล่านั้น อาจมองไม่เห็นไม่ชัดเจน แต่สิ่งนั้นจะสะสมเพิ่มทุกๆวัน ถ้าลองเปรียบเทียบกับสิ่งอื่น รอบๆบ้าน เช่นพื้นบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ถ้าไม่ทำความสะอาดสัก 1 สัปดาห์จะเป็นอย่างไร แน่นอนเราจะเห็นสิ่งทีเกิดขึ้นคือ ฝุ่นผง หรือคาบ ทีเกาะติดกับผิวนั้นๆ
|
|
|
|
|
ถ้าไม่ซักจะเป็นอย่างไร
นอกจากจะสะสมสิ่งสกปรกแล้ว อายุการใช้งานจะสั้นลงไปด้วย เพราะว่าสิ่งสกปรกหรือฝุ่นผงต่างๆที่ฝังตัวในผ้านั้นจะเป็นตัวทำลาย ทำให้ผ้าม่านเกิดความเสียหายเร็วกว่าปกติ ด้วยผ้าม่านที่แขวนอยู่บนราว เราไม่อาจสังเกตุถึงความผิดปรกตินั้น แต่พอนานๆเข้า โครงสร้างหรือเส้นใยของผ้าม่านนั้นจะค่อยๆถูกทำลายจากฝุ่นผงหรือความสกปรก และเมื่อนำไปซักอาจจะเปื่อยหยุ่ย ชำรุดและเสียหายก็เป็นได้ บางคนอยากซักแต่ไม่รู้วิธี ไม่แน่ใจว่าจะซักอย่างไร มาดูวิธีการซักผ้าม่าน ว่าทำอย่างไร
|
|
|
|
ถอดอุปกรณ์ประกอบออกจากผ้า ป้องกันความเสียหายจากการปั่นของเครื่องซัก |
|
|
|
|
เนื่องจากเป็นผ้าชิ้นใหญ๋ การนำผ้าเข้าเครื่อง ควรรวบหัวม่านรวมกัน และพับสลับตามแนวยาวของผ้า |
|
|
|
เครืองซักฝาหน้า จะซักสะอาดกว่าฝาบน และยังถนอมผ้ามากกว่า |
วิธีซักผ้าม่าน
|
- ถอดผ้าม่านจากราง
(ม่านบางชนิด อาจมีวิธีการถอด) ควรจำด้วยว่าชิ้นไหนเป็นของด้านไหน สิ่งสำคัญควรถอดแค่พอซักไหว เพราะผ้าม่านนั้นค่อนข้างชิ้นใหญ่มีน้ำหนัก ถ้าซักครั้งละหลายชุดอาจจะหนักเกินไป เนื่องจากต้องใช้เวลาและแรงกายพอสมควร
- ถอดอุปกรณ์ที่ติดมากับตัวม่าน
ที่ปลดออกมา นำมาถอดตะขอ โซ่ถ่วงหรืออุปกรณ์ที่ติดมากับตัวผ้าม่าน โซ่ถ่วงที่ใช้ถ่วงม่านนั้นปลายสองข้างจะเย็บติดกับผ้าม่าน ให้เราใช้ใบคัตเตอร์หรือกรรไกรเล็กๆค่อยๆตัดเส้นด้ายตรงส่วนปลายล่างสุด ทั้งซ้าย-ขวาโดยค่อยๆเลาะออกระวังอย่าให้โดนผ้า ให้ตัดเส้นด้ายระยะประมาณ 1 ซม.ผ้าที่คล้องหัวโซ่จะหลุดออก และทำอย่างเดียวกันกับอีกด้าน ควรทำเครื่องหมายไว้ว่าโซ่ชิ้นนี้เป็นของผ้าม่านชิ้นนี้ ถ้าไม่เช่นนั้นจะเสียเวลาตอนนำกลับมาใส่ภายหลัง
- นำไปซักน้ำเปล่าก่อน
นำไปซักน้ำเปล่าในภาชนะที่เตรียมไว้อย่างน้อย 2 น้ำ เพื่อให้ฝุ่นที่ยังไม่ฝังแน่นออกไปก่อน น้ำแรกจะเห็นว่าน้ำนั้นดำมาก และต่อมาทำตามขั้นตอนเดียวกันด้วยน้ำที่สอง ความดำของน้ำที่เกิดจากฝุ่นก็จะลดลง
- แช่ด้วยผงซักฟอก มากกว่า 30 นาที
ซักน้ำเปล่าแล้ว ถ้าผ้าม่านดำมากหรือสกปรกมากต้องแช่ไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น โดยใส่ผงซักฟอกทั่วไป พอได้เวลาแล้วล้างผงซักฟอกออกให้หมด
- นำเข้าเครื่องซักผ้า
ควรตั้งโปรแกรมซักผ้าหนา และตั้งให้เครื่องล้างน้ำ 2 ครั้ง (ไม่ควรซักน้ำร้อน เพราะอาจทำผ้าม่านบางชนิดเสียหายได้) ถ้าผ้าม่านชิ้นใหญ่ให้ใส่ผ้าขนหนู 2-3 ผืนที่ไม่ใช้แล้ว (ผ้าขนหนูจะช่วยดูดสิ่งสกปรกจากผ้าม่าน ปรับความสมดุลของเครื่องซักผ้าและยังช่วยรักษาผ้าม่านไม่ให้เกิดความเสียหาย และสามารถนำกลับมาใช้ได้ทุกครั้งที่ซัก)
ใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มในช่องของเครื่องซักผ้า ขณะเครื่องเริ่มทำงานให้ใส่น้ำส้มสายชูประมาณครึ่งถ้วยต่อผ้าม่านประมาณ 7-9 กก. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสกปรกของผ้าม่าน ในกรณีผ้าม่านเป็นคราบเชื้อรา หรือรอยคราบน้ำจากละอองฝน ให้ใส่เกลือลงไปด้วยประมาณครึ่งถ้วย จะช่วยขจัดคราบเพิ่มขึ้น สำหรับคราบที่ฝังแน่นที่สะสมเป็นเวลานาน อาจต้องใช้สเปรย์หรือน้ำยาจัดคราบช่วยอีกทางหนึ่ง
- นำออกจากเครื่อง ประกอบอุปกรณ์
เสร็จสิ้นการซัก ให้รีบนำออกจากเครื่องทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้ นำมาใส่ตะขอม่าน ยังไม่ต้องใส่โซ่ถ่วง รีบนำไปแขวนที่รางม่านเดิมที่ถอดมา จัดจีบม่านให้เข้าที่ตามเดิมเหมือนก่อนถอดออก ก่อนอื่นต้องทำความสะอาดรางและบริเวณที่แขวนผ้าม่านด้วย (ทั้งนี้การแขวนม่านทันทีหลังซักเสร็จจะทำให้ผ้าม่านไม่ยับ ผ้าบางชนิดไม่จำเป็นต้องรีดเลยก็เป็นได้) รูดปิดม่านให้ทุกส่วนสัมผัสอากาศ เปิดประดูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่นานผ้าม่านก็จะแห้ง และกลับมาใหม่เหมือนเดิม
- ตากที่ราวม่านได้
กรณีผ้าบางตัวอาจมีรอยยับ ให้ใช้เตารีดไอน้ำลักษณะตั้งพื้นและมีท่อพร้อมด้ามจับ รีดเก็บความเรียบร้อยอีกครั้ง
- ประกอบอุปกรณ์ม่านเข้าตามเดิม
นำโซ่ถ่วงมาใส่เข้าที่จุดเดิม และใช้เข็มสอยปิดหัวปิดท้าย ความจริงผ้าม่านไม่จำเป็นต้องใส่โซ่ถ่วงก็ได้ ถ้าผ้านั้นมีน้ำหนักพอ ให้สังเกตุดูว่าในขณะไม่ใส่โซ่ผ้าม่านเป็นอย่างไร ถ้าใส่จะดีกว่าเดิมหรือไม่ โซ่ไม่มีผลต่อผ้าม่านมากนัก ลองเปรียบเทียบดูก่อน แค่นี้ก็เป็นการเสร็จสิ้นการซักผ้าม่านเรียบร้อยครับ
|
หมายเหตุ
ผ้าม่านบางชนิดอาจมีวิธีการดูแลรักษาเฉพาะ ควรดูข้อมูลการดูแลรักษาที่ตัวอย่างผ้าตอนที่ท่านตัดสินใจสั่งผ้าม่าน จะมีรายละเอียดบอกไว้ที่ด้านหลังตัวอย่างผ้าครับ
|